วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

14 ของขวัญต้องห้าม!! ในปีใหม่นี้

ใกล้เทศกาลปีใหม่เข้ามาทุกที่แล้วนะจ๊ะ ซึ่งช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ พี่ปัดเชื่อว่าน้องๆ ชาว Dek-D.com หลายคนก็มักจะมองหาของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อมอบให้แก่คุณพ่อ คุณแม่ เพื่อน หรือคนรู้ใจใช่ไหมจ๊ะ แต่พี่ปัดขอเตือนว่า "ห้าม!! ให้ของขวัญ 14 ชิ้นนี้เด็ดขาด" เพราะความหมายของมันนั้น "น่ากลัวมากๆ" อ๊ะๆ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่ามีอะไรบ้าง งั้นไปเริ่มกันที่ชิ้นแรกเลย.....
 เด็กดีดอทคอม :: 14 ของขวัญต้องห้าม!! ในปีใหม่นี้                  ห้าม!! ให้รูปถ่าย >> แม้รูปถ่ายเดี่ยวของเราจะหล่อ หรือสวยขนาดไหนก็ห้ามให้คนรู้ใจเด็ดขาด เพราะมันเป็นเสมือนรูปที่ระลึกไว้ให้ดูต่างหน้า ในยามที่ตัวไกลกัน ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะทำให้ความรักที่อยู่ใกล้ตัวของเราเขยิบออกกลายเป็นไกลตัวได้ แต่ถ้าอยากจะให้รูปถ่ายจริงๆ ล่ะก็ พี่ปัดขอแนะนำว่าให้รูปคู่ของเรากับคนรู้ใจจะดีกว่านะจ๊ะ เพราะความรักจะได้อยู่คู่กัน และหวานชื่นตลอดไป
                ห้าม!! ให้นาฬิกา >> นาฬิกาถือว่าเป็นของประดับอีกชิ้นที่เรามักจะสวมใส่ติดตัวอยู่เสมอใช่ไหมจ๊ะ แต่ของชิ้นนี้ห้ามให้เป็นของขวัญโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะกับแฟน เพราะมันจะทำให้ความรักที่แสนจะยืดยาวของเราติดขัดและหยุดได้ เสมือนกับการหยุดเดินของนาฬิกานั้นเอง
                ห้าม!! ให้ดอกเบญจมาศ >> ดอกไม้ดอกนี้จะสวยงามมากขนาดไหน แต่ก็ห้ามให้ชาวจีนเด็ดขาด เพราะมันเป็นดอกไม้ที่ชาวจีนเขาเอาไว้ประดับตกแต่งในงานศพ แต่ถ้าเอาดอกกุหลาบไปให้แทนล่ะก็ พี่ปัดเชื่อว่าคนได้รับจะต้องยิ้มแก้มปริแน่นอนจ้ะ
                 ห้าม!! ให้ของมีคม >> แม้ภายนอกของมีด ดาบ และของมีคมประเภทต่างๆ จะดูสวยงามมาก และสามารถใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวได้ แต่ก็ไม่ควรที่จะนำไปมอบเป็นของขวัญอยู่ดีจ้ะ เพราะมันจะทำให้ผู้รับได้รับอันตราย มีภัย โชคร้าย และอาจจะเจ็บไข้ได้ป่วยได้
                 ห้าม!! ให้เสื้อผ้าสีดำ >> ถึงเทรนด์สีดำจะฮิตและร้อนแรงขนาดไหน ก็ห้ามให้เป็นของขวัญผู้อื่นนะจ๊ะ เพราะคนโบราณมีความเชื่อว่า การให้เสื้อ กางเกง ผ้าพันคอ ฯลฯ ที่เป็นสีดำกับใครไป จะทำให้เราต้องไปงานศพของเขาคนนั้น แค่คิดก็รู้สึกน่ากลัวและขนหัวลุกแล้วจริงไหมจ๊ะ
                 ห้าม!! ให้เครื่องแก้ว >> แม้จะดูสวยงาม หรูหรา น่าที่จะเอาไปมอบเป็นของขวัญให้แก่บุคคลอื่นในโอกาสต่างๆ แต่ก็เป็นของขวัญต้องห้ามอยู่ดี เพราะมีความเชื่อว่าถ้าเครื่องแก้วเหล่านี้แตกขึ้นมาล่ะก็ จะทำให้ความสัมพันธ์ของผู้ให้ และผู้รับมีอันแตกหัก และแตกสลายเหมือนกับแก้วแตกที่ไม่สามารถนำกลับมาประสานเหมือนเก่าได้
เด็กดีดอทคอม :: 14 ของขวัญต้องห้าม!! ในปีใหม่นี้
                 ห้าม!! ให้ผ้าเช็ดหน้า >> นอกจากจะเอาไว้ซับเหงื่อยามร้อนแล้ว ผ้าเช็ดหน้ายังมีเอาไว้ซับน้ำตายามที่เศร้าเสียใจอีกด้วย ดังนั้นของขวัญชิ้นนี้จึงไม่ควรให้เด็ดขาด เพราะมันจะอาจจะทำให้น้องๆ ชาว Dek-D.com ต้องเช็ดน้ำตาก่อนเวลาอันควรได้
                 ห้าม!! เครื่องสำอาง >> ไม่ว่าจะเป็นลิปสติก ครีมรองพื้น โลชั่นบำรุงผิว ไปจนถึงคอร์สความงามต่างๆ ห้ามให้ผู้หญิงเด็ดขาดนะจ๊ะ เพราะถึงแม้ผู้ชายจะไม่มีเจตนาแอบแฝงอะไรนอกจากอยากจะให้คนรู้ใจของตัวเองที่สวยอยู่แล้วยิ่งสวยขึ้นไปอีก แต่เจ้าของขวัญชิ้นนี้มันอาจจะทำให้สาวเจ้าอารมณ์เสียได้ เพราะพวกเธอจะคิดว่าผู้ชายติเธอว่าไม่สวย ไม่รู้จักดูแลตัวเอง หรือแก่ได้ แต่ถ้าสาวๆ อ้อนให้ซื้อให้ล่ะก็ อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องนะจ๊ะ
                ห้าม!! ให้เข็มกลัด >> ถึงเข็มกลัดจะเท่ห์ ดูดีเหมาะกับการนำไปประดับตกแต่งเสื้อผ้า และกระเป๋าใบโปรด แต่ก็ห้ามเอาเป็นของขวัญเด็ดขาดเหมือนกัน เพราะมีความเชื่อว่าการให้ของขวัญชิ้นนี้จะทำให้ผู้ได้รับรู้สึกเจ็บปวด เหมือนถูกทิ่มแทงใจ และทำให้เกิดความขัดแย้งได้

                 ห้าม!! ให้รองเท้า >> ถึงจะเจอรองเท้าสวย เก๋ โดนใจขนาดไหนก็ห้ามให้คนรู้ใจซื้อให้เป็นของขวัญนะ เพราะเขามีความเชื่อว่าถ้าคนรู้ใจที่ยังไม่ได้แต่งงานกันซื้อรองเท้าให้อาจจะทำให้เลิกกันได้ ซึ่งพี่ปัดได้ยินมาว่ามีหลายคู่ที่ต้องเลิกกันเพราะสาเหตุนี้ น่ากลัวมากเลยนะเนี่ย
                 ห้าม!! ให้ของขวัญสีขาว - ดำ >> นอกจากจะห้ามให้เสื้อผ้าสีดำตามที่ได้บอกไปแล้ว ยังห้ามให้ของขวัญที่เป็นสีขาว-ดำอีกด้วย โดยอันนี้เป็นความเชื่อของชาวจีนจ้ะ เพราะพวกเขาเชื่อว่าสีขาวเป็นสีแห่งความเศร้า ส่วนสีดำเป็นสีแห่งความสูญเสียนั้นเอง อ๊ะๆ ยังไม่หมดนะจ๊ะเพราะกระดาษห่อของขวัญก็ห้ามใช้สองสีเหมือนกันนะจ๊ะ
                 ห้าม!! ให้น้ำหอม >> กลิ่นหอมหวาน หรูหรา หรือจะร้อนแรงมากขนาดไหน ก็ต้องเก็บน้ำหอมขวดนั้นเอาไว้เองคนเดียว ห้ามนำไปมอบให้คนรู้ใจโดยเด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้ความรักของจืดจางไปได้ เหมือนกับกลิ่นของน้ำหอมที่จะจางหายไปตามกาลเวลา 
 เด็กดีดอทคอม :: 14 ของขวัญต้องห้าม!! ในปีใหม่นี้
                 ห้าม!! ให้หมวกสีเขียว >> หมวกสีอื่นสามารถให้เป็นของขวัญได้ แต่หมวกสีเขียวนี่พี่ปัดขอบอกว่าห้ามคิดที่จะให้โดยเด็ดขาด เพราะชาวจีนเขามีสำนวนที่ว่า “สวนหมวกสีเขียว” ซึ่งมีความหมายว่า “คบชู้”
                 ห้าม!! ให้หวี >> มิตรภาพระหว่างเพื่อน และความรักกับคนรู้ใจเป็นสิ่งที่สวยงาม ดังนั้นถ้าน้องๆ ชาว Dek-D.com ไม่อยากให้มันจางหายไปก็ต้องห้ามให้หวีเป็นของขวัญ เพราะสิ่งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับกับซี่ของหวีที่ห่างกันนั้นเอง


5 ของขวัญปีใหม่ที่ “เด็ก” อยากได้จาก “ผู้ใหญ่”

อยากได้ Iphone และ BB ของขวัญชิ้นแรกอาจทำเอาผู้ใหญ่หลายคนกระเป๋าแบนแน่ๆ เพราะวัยรุ่นหลายคนโหวตกันมากมายว่า หากขอได้ หนูขอไอโฟน หรือ BB นะค่ะ ว่าแต่วัยรุ่นทั้งหลายจะเอาไปทำอะไรกันหว่า หรืออยากได้ตามกระแส ???

เด็กดีดอทคอม :: 5 ของขวัญปีใหม่ที่ “เด็ก” อยากได้จาก “ผู้ใหญ่”

           >>> ความสามัคคี ติดโผทุกสำนัก แม้กระทั่งของขวัญที่เด็กอยากได้ ก็ยังติดมาด้วยว่า อยากให้ผู้ใหญ่สามัคคี ไม่ทะเลาะกัน เพราะเชื่อแน่ว่า เหตุการณ์การเมืองเมื่อกลางปีที่ผ่านมานี้ คงอยู่ในหน่วยความจำของใครหลายคน ลบยังไงก็ไม่ออกสักที

           >>> ความเข้าใจ ของขวัญข้อนี้เด็กแอดมิชชั่น 54 ขอมาเยอะที่สุด บอกว่า ขอให้พ่อแม่เข้าใจลูกคนนี้หน่อย รู้ว่าพ่อแม่เป็นห่วงอยากให้ลูกเรียนในมหาลัยดีๆ แต่การกดดัน การไม่เข้าใจแบบนี้ ลูกเครียดค่ะ ประโยคเดียวจบ !!

           >>> เวลา ได้เห็นของขวัญข้อนี้แล้วอนาถใจแท้ สืบไปสืบมาก็ทราบว่า ทุกวันนี้คุณพ่อคุณแม่ต่างทำมาหากินกันเต็มที่ เพื่อความสุขสบายของลูกในอนาคต แต่จนลืมไปว่า ลูกต้องการความอบอุ่นมากกว่าความสุขสบาย อ้าว คุณพ่อ คุณแม่ว่าไงทีนี้

           >>> อายุยืน เป็นของขวัญประเภทนามธรรมที่แปลกมาก ขอของขวัญให้ตัวเองอายุยืน แต่สืบไปสืบมา ทำให้รู้ว่า อ๋อๆๆ เด็กไทยกำลังขอให้ผู้ใหญ่อย่าทำร้ายธรรมชาติ อย่าทำอะไรก็ตามที่เป็นการทำร้ายโลก ลูกๆ หลานๆ จะได้มีชีวิตยืนยาวนั้นเอง

           เอาล่ะ 5 ของขวัญปีนี้ ออกแนวดราม่าจังนะครับ ตอนแรก พี่ลาเต้ นึกว่าผลออกมาจะเป็นของเล่น ของขวัญซะงั้น = =" แต่ก็แสดงให้เห็นว่า เด็กไทยของเราทุกวันนี้ มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ โตเร็วกว่าที่คิดมาก

          งั้นชาวเด็กดีอยากได้ของขวัญกล่องไหน ก็ขอให้ได้ตามนั้นเลยนะ (แต่อย่าลืมมาแบ่งพี่ด้วยนะ อิอิ) สวัสดีปีใหม่คร้าบ..

เด็กดีดอทคอม :: 5 ของขวัญปีใหม่ที่ “เด็ก” อยากได้จาก “ผู้ใหญ่”

ฝึกการเป็นผู้นำ

มาดูว่า ทะเลาะแล้วได้อะไร ?

ให้มันเปนสีชมพู!!!

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หน้า 61

1. ข้อควรระวังในการใช้อินเทอร์เน็ต

ในปัจจุบันมีการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ไม่ถูกต้องเป็นจำนวนมากและบางครั้งก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมขึ้นในสังคม เช่น การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการโฆษณาชวนเชื่อหรือหลอกลวงผู้ใช้บริการให้หลงเชื่อทำให้ต้องสูญเสียเงิน ถูกล่วงเกินทางเพศหรือแม้กระทั่งเสียชีวิต การมีเว็บไซต์ขายบริการทางเพศและการที่เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ติดเกมส์ออนไลน์จนเสียการเรียน เป็นต้น

ดังนั้น ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตจึงควรตระหนักถึงพิษภัยจากการนำเสนอ โฆษณาชวนเชื่อ และการขายบริการทุกประเภทผ่านทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการสนทนาทางอินเทอร์เน็ต โดยไม่ทราบแหล่งที่มาหรือตัวบุคคลที่แน่ชัด ซึ่งผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตต้องเพิ่มความระมัดระวังไม่ควรให้ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ สถานที่ติดต่อหรือไปพบกับบุคคลแปลกหน้า ที่สนทนาผ่านทางอินเทอร์เน็ตตามลำพัง และในกรณีที่มีเหตุการณ์ผิดปกติหรือมีบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจมาติดต่อให้ออกไปพบนอกสถานที่ ควรแจ้งให้บิดามารดาหรือบุคคลใกล้ชิด หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหลอกลวงไปสู่อาชญากรรมต่อไป สำหรับเวลาที่เหมาะสมในการเล่นเกมส์ของเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี จำกัดไม่เกิน 3 ชั่วโมง ผู้ปกครองจึงควรกวดขันลูกหลานและชี้ให้เห็นโทษของการเล่นเกมส์เป็นเวลานานติดต่อกันให้ลูกหลานทราบด้วย


2.จงบอกถึงรูปแบบการเผยแพร่สารสนเทศผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

1.การจัดทำ web page ฝากไว้ในเว็ปไซต์ วิธีนี้จะทำให้รู้ URL ของเว็ปเพจนั้น
2.กระดานข้อความ เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทำให้ผู้คนที่ผู้ต้องการเผยแผร่ข้อมูลนำมา      ฝากไว้ได้   

คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต

โทษของอินเทอร์เน็ต มีหลากหลายลักษณะ ทั้งที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เสียหาย, ข้อมูลไม่ดี ไม่ถูกต้อง, แหล่งประกาศซื้อขาย
ของผิดกฏหมาย, ขายบริการทางเพศ ที่รวมและกระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์ต่างๆ
โรคติดอินเทอร์เน็ต (Webaholic) เป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง ซึ่งนักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S Young ได้ศึกษาและวิเคราะห์ไว้ว่า บุคคลใดที่มีอาการดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 4 ประการ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี แสดงว่าเป็นอาการติดอินเทอร์เน็ต


     เทคโนโลยีที่ทันสมัย แม้จะช่วยอำนวยความสะดวกได้มากเพียงใดก็ตาม สิ่งที่ต้องยอมรับความจริงก็คือ เทคโนโลยีทุกอย่างมีจุดเด่นและข้อด้อยของตนทั้งสิ้น ทั้งที่มาจากตัวเทคโนโลยีเอง และมาจากปัญหาอื่นๆ เช่น บุคคลที่มีจุดประสงค์ร้าย
ในโลก cyberspace อาชญากรรมคอมพิวเตอร์เป็นปัญหาหลักที่นับว่ายิ่งมีความรุนแรง เพิ่มมากขึ้น ประมาณกันว่ามีถึง 230% ในช่วงปี 2002 และแหล่งที่เป็นจุดโจมตีมากที่สุดก็คือ อินเทอร์เน็ต นับว่ารุนแรงกว่าปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์เสียด้วยซ้ำ หน่วยงานทุกหน่วยงานที่นำไอทีมาใช้งาน จึงต้องตระหนักในปัญหานี้เป็นอย่างยิ่ง จำเป็นต้องลงทุนด้านบุคลากรที่มีความ
เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัย
ระบบซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพ การวางแผน ติดตาม และประเมินผลที่ต้องกระทำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง แต่ไม่ว่าจะมีการป้องกันดีเพียงใด ปัญหา
การโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ก็มีอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้ระบบการโจมตีที่พบบ่อยๆ

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แนะนำตัว

ชื่อ ด.ช. บารมี ศรีสุวรรณ ชั้น ม. 2/1 โรงเรียนตากพิทยาคม
เลขที่ 2  อาจารย์ผู้สอน อาจารย์พุทธชาติ   มั่นเมือง